เพราะสถานการณ์โควิด-19 นี้เองเป็นเหตุให้หลายคนต้องอยู่กับบ้าน ยิ่งในช่วง Work from Home ก็อาจมีเวลาได้จัดสรรอะไรหลายอย่างในเรื่องส่วนตัวรวมทั้งความชอบที่แตกต่างกันออกไป คนอ่านบางคนต้องหากิจกรรมอย่างอื่นทำเป็นงานอดิเรก บางคนทำไปพร้อมกับงานประจำกันเลยทีเดียว รวมทั้งบางคนถึงกับลาออกจากงานประจำ เพราะค้นพบความชอบที่สร้างรายได้ยั่งยืน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปลูกต้นไม้ รวมทั้งกระแสไม้ด่าง ยังคงมาแรงในยุคสมัยที่คนอยู่กับบ้าน ไม้ด่างนั้น เป็นไม้ที่มีความสวยงามเป็นพิเศษรวมทั้งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่มีรูปแบบที่ซ้ำกันแม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกันก็ตาม แถมยังสามารถขยายพันธุ์ สร้างรายได้ให้แก่ผู้สนใจอย่างดีมากด้วย
การที่ต้นไม้ขายดีนั้นยิ่งทำให้ล่อใจคนอ่านสนใจอยากครอบครอง ส่งผลทำให้ราคาต้นไม้ด่างเกือบทุกชนิดมีราคาพุ่งขึ้นสูงเป็นเท่าตัว ในปีนี้เราก็ต้องยอมรับว่า กระแสไม้ด่างยังคงมาแรงมาก มีการซื้อขายกันอย่างคึกคักตามที่ข่าวหลายแห่งได้นำเสนอเอาไว้ ทั้งร้านขายต้นไม้ หรือ ขายผ่านช่องทางออนไลน์ นั่นนับได้ว่าสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้แก่ผู้ปลูกได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นไม้ด่างในกลุ่มฟิโลเดนดรอน, กลุ่มกล้วยด่าง, กลุ่มซิงโกเนียม, กลุ่มอโลคาเซีย หรือกลุ่มโคโลคาเซีย
ใบด่างสวยด้วยสูตรบำรุงไม้ด่างตัวนี้
สำหรับวันนี้เราก็ตั้งใจว่าจะมาแนะนำบทความเกี่ยวกับไม้ด่างกลุ่มอโลคาเซีย ที่กำลังเป็นไม้กระแสยอดนิยมมีซื้อขายกันหลักหมื่นบาทถึงหลักล้านบาทมาแล้ว โดยในช่วงที่ผ่านมานั่นนับได้ว่าก็ถือได้ว่า ไม้ด่างในกลุ่มนี้ ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะกลุ่มที่ราคาพอจับต้องได้ เช่น บอนหูช้างด่าง เหลือง หรือ (Alocasiagageanaaureavariegated) นั่นนับได้ว่าเป็นบอนที่มีลายด่างที่สวยงามมากชนิดหนึ่ง เมื่อต้นปีราคาซื้อขายยังอยู่ในช่วงหลักพันบาท จนเกินกระแสคนหามาปลูกเลี้ยงกันมากขึ้น จนราคาบอนหูช้างด่างเหลืองนั้นราคาซื้อขายในตลาดขยับขึ้นสูงอย่างรวดเร็วตามความต้องการของตลาดผู้ที่ชื่นชอบ
ดูบทความเกี่ยวพันรื่อง บอนหูช้างกับต้นกระดาด เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
มาเริ่มต้นกันเลยเรื่องบอนหูช้างด่างเหลืองในตอนนี้ ต้นที่มีขนาดเล็กความสูงเพียง 15-25 ซม. มีการซื้อขายกันหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว หรือต้นไหนที่ลายด่างสวยขนาดต้นใหญ่มากขึ้นราคาก็ขยับขึ้นไปหลายหมื่นบาทจนแตะหลักแสนบาท ที่ผ่านมาก็สามารถขายกันได้หลักล้านบาทกันมาแล้ว ดังที่หลายท่านได้เห็นในสื่อข่าวออนไลน์
บอนหูช้างด่างเหลืองนั้น เป็นอโลคาเซียที่ชอบดินหรือวัสดุปลูกที่ร่วนซุย ชอบความชุ่มชื้น ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้วัสดุปลูกแห้ง ควรรดน้ำให้วันละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรปลูกในที่ที่มีน้ำขังเพราะรากจะเน่าได้ง่าย บอนหูช้างด่างเหลืองชอบแสงแดดรำไร ชอบแสงแดดประมาณ 60-80% มีการให้ปุ๋ยลาลายช้าเช่น ออสโมโค้ท หรือ ปุ๋ยคอกเก่า หรือ ปุ๋ยมูลไส้เดือน เพื่อช่วยให้ต้นมีความแข็งแรง เจริญเติปโตได้ดี
หากใครต้องการบอนหูช้างรวมทั้งไม้ด่างสวยๆ แนะนำ สวนคุณลี อ.เมือง จ.พิจิตร ทางสวนได้แจ้งข้อมูลว่า มีการแนะนำสูตรวัสดุปลูกบอนหูช้างด่างเหลืองให้ลูกค้าทดลองใช้แล้วดีมาก โดยมีหลายสูตรตามแต่ละท่านสะดวกเลือกใช้ นั่นนับได้ว่าเน้นที่ความโปร่งระบายน้ำดี เช่น
- ใช้ดินใบก้ามปูหมักล้วนๆผสมปุ๋ยคอกเก่าเล็กน้อย
- ใช้ดินใบก้ามปูผสมกับกาบมะพร้าวสับหรือเพอร์ไลท์
- ใช้สูตรดินที่มีความซับซ้อนละเอียดมากกว่านี้
สูตรที่เกี่ยวพัน เช่น สูตรที่มี (เวอร์มิคูไลท์ ครึ่ง ส่วน, หินภูเขาไฟ 0.5 ส่วน (เบอร์ 2)
เพอร์ไลท์ 0.5 ส่วน
ดินญี่ปุ่น ครึ่ง ส่วน
ดินใบก้ามปู 1 ส่วน
กาบมะพร้าว 1 ส่วน (แช่น้ำ 3 วันแนะนำให้แช่กาบมะพร้าว 3 วัน เปลี่ยนน้ำทุกวัน เพื่อล้างสารแทนนินออกให้มากที่สุด)
ปุ๋ยออสโมโค้ท 1 ช้อนชาจากนั้นรองกระถางด้วยหินภูเขาไฟเบอร์ 3 แล้วโรยด้วยเบอร์ 2 (กันวัสดุปลูกหนีเราออกจากกระถาง)
สูตรปลูกรวมทั้งดูแลต้นบอนหูช้างด่างเหลืองให้ได้ใบด่างสวย
หรือจะใช้กาบมะพร้าวก็ได้ เพื่อป้องกันน้องเล่นน้ำมากไป จากนั้นใส่วัสดุปลูกที่ผสมไว้ลงไปประมาณ 0.5 กระถาง โรยด้วยปุ๋ยออสโมโค้ทเล็กน้อย แล้วตามด้วยวัสดุปลูกที่เหลือจนเต็มกระถาง
สูตรนี้รับรองว่า ไม้ด่างที่เลี้ยงจะงอกงามแน่นอน