เนื้อเรื่องสำหรับวันนี้จะมาเปิดเผยเรื่องเกี่ยวพันกับ "อะโวคาโด" และความลับที่ต้องรู้ของมัน หากผู้อ่านท่านไหนสนใจก็แชร์กันเยอะๆ เริ่มเลยละกัน เพราะเรามีเมล็ดอะโวคาโดเยอะซะด้วย และคิดว่าอยากจะปลูกอะโวคาโดไว้ติดบ้านซักต้นสองต้น ไม่ต้องไปหาข้อมูลไกลที่ไหน มานี่เลยมีบอกไว้หมดแล้ว

อะโวคาโด เรารู้แต่ว่ามันเป็นพืชนำเข้ามาตั้งแต่แรก แต่เมืองไทยก็ปลูกได้ ศึกษาข้อมูลก่อน ต้นอะโวคาโด ชอบดินแบบไหน ชอบน้ำไหม ปุ๋ยอะไรถึงจะดี ปลูกกี่ปีถึงจะมีลูก ต้นโตขนาดไหน ปลูกใกล้บ้านจะได้ไหม บลาๆ เอาเป็นว่ามาฟังพร้อมๆ กันไปเลย แน่นอน เรื่องนี้กูอยากเขียน และจะปลูกอะโวคาโดไว้ติดบ้านซักต้น เลยต้องรีวิวกันให้เห็น

ความลับที่อะโวคาโดไม่ออกลูกติดผล

เค้าว่า อะโวคาโดเป็นไม้เมืองหนาว แต่ปลูกในไทยได้ แสดงว่า ชอบอากาศเย็นๆ การปลูกและเพาะเมล็ด น่าจะทำในช่วงหน้าหนาว หรือช่วงฝนชุก เพราะอากาศจะเย็น แต่ไม่ถึงกับต้องไปเพาะใส่ในตู้เย็นเหมือนสตรอเบอรี่หรอกนะ เพราะเม็ดที่เหลือทิ้งสุมๆ เอาไว้ตรงใกล้อ่างล้างจาน มันก็มีรากมาให้ แสดงว่ามันงอกได้ แต่สภาพแวดล้อมในการปลูกอะโวคาโดจำเป็นต้องมีอากาศที่เย็น เพราะความเย็นจะช่วยให้ต้นอะโวคาโดเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้เร็ว

เนื้อเรื่องเกี่ยวพัน : เริ่มต้นปลูกอะโวคาโด ต้องปลูกพันธุ์ไหนถึงจะดี

พื้นที่ปลูกในภาคกลางที่พบได้ชัดเจนในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นที่ปากช่อง บ้านเราอยู่ภาคกลางค่อนไปทางเหนือ แสดงว่าน่าจะปลูกได้ เอาเป็นว่า ช่วยให้อากาศเย็นๆ ต้องมีร่มไม้เยอะๆ น่าจะไหว

เริ่มการปลูกอะโวคาโด ทำอย่างไรให้ได้ผลเร็วสุด

ต้นอะโวคาโดเป็นพืชที่ปลูกง่าย ถ้าหากปลูกมะม่วงขึ้น เจ้านี่ก็ขึ้น เพราะแทบไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย แนะนำให้ปลูกแซมในสวนผลไม้อื่นๆ หรือปลูกลงกระถางก่อนใกล้ๆ กับไม้ที่ให้ร่มเงา จะโตเร็วมาก ถ้าหากปลูกเอาไว้กลางแดดเปรี้ยงๆ ต้นจะแกรน ใบไหม้ โตช้า แต่ถ้าหากปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ไปก่อน จะโตเร็วมาก ที่สำคัญ น้ำท่วมไม่ตาย เคยโดนน้ำท่วมมาแล้ว 2 หน ตอนแรกคิดว่าจะตาย ที่ไหนได้ พอน้ำลด พี่แกแตกยอดเต็มต้น สรุป ไม่ตายจ้า

เราปลูกด้วยการเพาะเมล็ด ต้นหนึ่งเอาไว้หลังบ้าน อีกต้นเอาไว้หน้าบ้าน เชื่อไหม ต้นไว้หลังบ้านโดนน้ำล้างจานทุกวัน แดดไม่แรง แถมปลูกใกล้กับต้นชมพู่ แตกยอดอ่อนเต็มเลย แต่ต้นหน้าบ้าน ปลูกโดดๆ บำรุงทั้งปุ๋ยทั้งดิน ใบแห้ง ไม่สดชื่น เหมือนเค้าไม่ชอบอยู่ต้นเดียวเดี่ยวโดด แนะนำเลย ระยะแรกถ้าหากยังไม่ลงดิน เอาเป็นว่า อย่าเอาลงดินถ้าหากต้นยังไม่ใหญ่ เช่นนั้นแล้วปลูกในกระถางให้ได้ต้นใหญ่ๆ ไปซัก ปีสองปีก่อน ค่อยเอาลงดิน จะดีกว่า

เช่นนั้นแล้วปลูกในกระถางแล้วไปวางไว้ใต้โคนต้นไม้แล้วบำรุงเหมือนไม้กระถางทั่วไปซักปีสองปี อย่าให้โดนแดดตรงๆ ให้มียอดมีกิ่งเยอะๆ ก่อน แล้วค่อยจับลงดิน แล้วพื้นที่ปลูก ก็แนะนำ ให้ปลูกในที่ร่มไปก่อน อย่าให้โดนแดดจัด ไม่งั้นใบจะเหี่ยวง่ายๆ ดินให้มีความชื้นดี ระบายน้ำได้ดี แนะนำผสมดินเผาหรือเศษอิฐแดง ปลูกแล้วโตดีมาก น้ำอย่าให้ขาด น้ำท่วมไม่ตายเจ้าอะโวคาโดนี่น่ะ

เมื่อต้นสูงประมาณ 1 เมตร ก็ให้ปุ๋ยบ้าง 1-2 เดือนครั้ง อะโวคาโดเป็นพืชที่ต้องการน้ำสม่ำเสมอ หลังปลูกผ่านไป 3 ปี ก็สามารถให้ผลผลิตและเก็บเกี่ยวได้แล้ว และจะให้ผลผลิตมากขึ้นเมื่ออายุ 5-6 ปี ตัวอย่างสวนของคุณสำเริงที่ปากช่อง ผลผลิตต้นหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 400-500 กก. ต้นอะโวคาโดจะให้ผลผลิตประปรายตลอดทั้งปี แต่จะมีผลผลิตมากในช่วงเดือน พ.ค.-ก.ย. หรือในช่วงฤดูฝน

เมื่อต้นอะโวคาโดที่ปลูกลงดิน หรือต้นที่อยู่ในกระถาง มีความสูงประมาณ 6-7 นิ้ว ให้ตัดยอดออก เพื่อช่วยเร่งให้เกิดการแตกยอดใหม่ และเมื่อมีความสูงประมาณ 12 นิ้ว ก็ให้เด็ดยอดอ่อนออกให้แตกยอดใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะได้ทรงพุ่มสวย รอบโคนต้นไม่ควรมีวัชพืช เพราะจะมาแย่งอาหารหมด ต้นโตช้า

สูตรเร่งให้ต้นอะโวคาโด โตไวๆ

จากการค้นพบก็ได้สูตรเนื้อเรื่องเร่งลูกอะโวคาโด เช่นนั้นแล้วใช้ปุ๋ยสูตรที่มีตัวเลขด้านหน้าเยอะๆ หากใช้ปุ๋ยอินทรีย์ แนะนำปุ๋ยอินทรีย์จากผักตบชวา โดยนำผักตบชวามากองๆ สุมๆ ไว้ให้ย่อยสลายบางส่วน แล้วนำมาเป็นวัสดุปลูก จะทำให้ต้นอะโวคาโดติดยอดและให้ผลผลิตดี สูตรนี้ใช้ได้กับไม้ผลทุกชนิด

พันธุ์อะโวคาโดที่ปลูกได้ในประเทศไทย

เอาเป็นว่าปลูกไม่ได้ทุกพันธุ์นะ บางพันธุ์เพาะเมล็ดได้ก็จริงแต่พอเอาปลูกลงดินก็ตาย หรือปลูกไปแล้วไม่โตก็มีเยอะ เอาเป็นว่าถ้าหากจะปลูกให้เลือกพันธุ์ที่ชัวร์ว่างอกและให้ผลผลิตแน่ๆ ก่อน ดีกว่าปลูกไปแล้วเช่นนั้นแล้วมึงไม่ได้แดก แล้วมาตีโพยตีพายว่าปลูกไม่ขึ้น ไม่มีลูก นั่นล่ะ เช่นนั้นแล้วมึงเลือกผิดตั้งแต่แรก ส่วนจะเอาพันธุ์ไหนได้ผลดีสุด ก็ศึกษาหน่อย แนะนำสายพันธุ์อะโวคาโดที่เค้าปลูกในไทย ถ้าหากหาไม่ได้ก็ไปซื้อลูกมาแดกเอา เลือกที่ผลมันมาจากประเทศไทยน่ะ ถ้าหากไม่รู้ก็ดูตรงนี้

• พันธุ์ปีเตอร์สัน (Peterson) ลักษณะผลค่อนข้างกลม มีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง น้ำหนัก 200-300 กรัม เนื้อผลสีเหลืองอมเขียว รสดีเมล็ดใหญ่อยู่ในช่องเมล็ดแน่น เป็นพันธุ์เบา เก็บเกี่ยวผลได้ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม พันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่นิยมที่สุดและมีคุณสมบัติที่ดี
• พันธุ์บูธ 7 (Booth-7) เป็นลูกผสมระหว่างเผ่ากัวเตมาลัน และเวสต์อินเดียนผลลักษณะค่อนข้างกลม ขนาดกลาง น้ำหนัก 300-500 กรัม ผิวผลขรุขระเล็กน้อยสีเขียว เปลือกหนา เนื้อสีเหลืองอ่อน รสดี เมล็ดขนาดกลาง มีไขมัน 7-14เปอร์เซ็นต์ ช่วงเก็บเกี่ยวผลประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม
• พันธุ์บูธ 8 (Booth-8) ลักษณะผลรูปไข่ ขนาดเล็กถึงกลาง น้ำหนักประมาณ 270-400 กรัม ผิวผลขรุขระเล็กน้อย สีเขียว เปลือกหนา เนื้อสีครีมอ่อนรสชาติพอใช้ มีไขมัน 6-12 เปอร์เซ็นต์ เมล็ดมีขนาดกลางถึงใหญ่อยู่ในช่องเมล็ดแน่น ฤดูเก็บเกี่ยวประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม
• พันธุ์แฮสส์ (Hass) เป็นพันธุ์การค้าอันดับ 1 ของโลก เป็นพันธุ์เผ่ากัวเตมาลัน ลักษณะผลรูปไข่ ผิวผลขรุขระมาก ผิวสีเขียว เมื่อสุกอาจเป็นสีเขียวเข้มหรือม่วงเข้ม ผลมีขนาดเล็ก น้ำหนัก 200-300 กรัม เนื้อผลสีเหลือง มีไขมันประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เมล็ดมีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เก็บเกี่ยวผลได้ในเดือนพฤศจิกายนแต่พันธุ์แฮสส์ มีปัญหาหากความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เพียงพอจะทำให้ผลผลิตไม่ค่อยดี

พื้นที่ปลูกอะโวคาโดในประเทศไทยมีที่ไหนบ้าง

อโวคาโด จากเมืองปากช่อง "สวนคุณสำเริง กลั่นกลิ่น เกษตรกรชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่สนใจอะโวคาโดมาตั้งแต่ 30 ปีที่แล้วและได้นำต้นมาทดลองปลูกที่สวนซึ่งก็หมายความว่าก็เจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่ดี ประกอบหลายสิบปีก่อนนั้น ทางสถานีวิจัยพืชสวนปากช่องก็ได้มีการนำพันธุ์อะโวคาโดมาทดลองปลูกเพื่อศึกษาวิจัยและส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอย่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจมาก เพราะตอนนั้นตลาดอะโวคาโดยังไม่เป็นที่รู้จัก ดังนั้น คุณสำเริงซึ่งก็หมายความว่าสนใจไม้ผลชนิดนี้อยู่แล้ว จึงได้ไปนำพันธุ์อะโวคาโดจากสถานีวิจัยพืชสวนปากช่องและไปหาพันธุ์จากโครงการหลวงทางภาคเหนือมาทดลองปลูกอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีต้นอะโวคาโดอยู่มากกว่า 500 ต้น ที่ปลูกแซมไว้ในสวนน้อยหน่าเพชรปากช่อง ซึ่งก็หมายความว่าส่วนใหญ่จะเป็นต้นอายุ 8-10 ปี และในแต่ละปีอะโวคาโด 500 ต้นทำเงินให้กับคุณสำเริงไม่น้อยเลยทีเดียว"

ภาคใต้ก็ปลูกอะโวคาโดได้ ที่ชุมพร มีต้นอะโวคาโดในสวนผลไม้แบบผสมผสาน ของคุณทองทิม สีถาการ ที่ชุมพร สวนอะโวคาโดอยู่ในเนื้อที่กว่า 20 ไร่ เคยปลูกกาแฟมาก่อน แต่มีปัญหาดินเปรี้ยว จึงเปลี่ยนมาเป็นปลูกผลไม้แบบผสมผสาน ปาล์ม ทุเรียน มังคุด และอะโวคาโด โดยแก้ปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อมโดยการปลูกแซมผลไม้ชนิดอื่น และให้น้ำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งกรณีขาดน้ำฝน ในภาคใต้มีฝนตกชุกจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องน้ำมากนัก แต่ก็ใช้เวลานานถึง 3 ปีถึงให้ผลผลิต สนใจปลูกอะโวคาโด ภาคใต้ ดูแบบอย่างที่สวน คุณทองทิม สีถาการ ที่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 2 บ้านล่าง ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี ชุมพร

ศึกษาแล้วก็ลงมือปลูกกันเลยสิรออะไร ผู้อ่านท่านไหนปลูกแล้วยังไม่ติดลูก ลองถามกันเข้ามาได้ เพราะผมเองก็เพิ่งปลูกมาสองสามปีเอง ปีแรกลองผิดลองถูกไม่ตายก็ดีแค่ไหนแล้ว

ชอบเนื้อเรื่องการปลูกต้นอะโวคาโดไว้ติดบ้านนี้ ก็อย่าลืมแชร์กันเยอะๆ นะ จะได้มีกำลังใจมาบอกข้อมูลใหม่ๆ เพิ่มเติม

ติดตามสาระความรู้และเนื้อหาข่าวทันเหตุการณ์ได้จากกระดานข่าวเราที่ azrip.net/board/